อาการปวดเข่าโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดในวัยผู้สูงอายุ เนื่องจากอายุที่มากขึ้นจึงเกิดปัญหาต่อความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ หมอนรองข้อต่อและเอ็นที่ช่วยยึดข้อต่อให้มีความแข็งแรง จึงเกิดความเสื่อมของข้อต่อขึ้น แต่สำหรับคนที่ยังไม่แก่ อายุประมาณ 20-45 ที่เกิดปัญหาปวดข้อเข่าขึ้นนั้น มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดข้อเข่าเสื่อม หรือความเจ็บปวดต่อข้อเข่าขึ้นได้ มักจะเกิดเวลาต้องลงน้ำหนัก เช่นมีการวิ่ง การนั่งยองๆ หรือการเดินขึ้นลงบันได
ซึ่งปัญหาปวดเข่าที่เกิดขึ้นนั้นมีหลายสาเหตุ เช่น
- มีการบาดเจ็บของข้อเข่ามาก่อนหน้านี้ เช่น เกิดอุบัติเหตุ ล้ม หรือมีการกระแทกของข้อเข่าไม่ว่าจะมาจากการเล่นกีฬา แรงกระแทกต่อข้อเข่าโดยตรง หรืออาจจะมีประวัติเอ็นข้อเข่าฉีก หรือหมอนรองข้อเข่าฉีก
- ความผิดปกติของข้อสะโพก ซึ่งอาจจะเป็นมาตั้งแต่กำเนิด ซึ่งความผิดปกตินี้ทำให้ข้อเข่ามีการวางตัวไปผิดปกติ เช่นทำให้เข่าชนกัน หรือเข่าโก่ง
- เท้ามีความผิดปกติ ซึ่งทำให้มีผลต่อการเคลื่อนไหว หรือการสบกันของข้อเข่า เช่น คนที่มีอู้งเท้าสูงกว่าปกติ high arch หรือคนที่เท้าแบน flat feet ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นอาจจะมีการบิดหมุนของตัวข้อเท้าและไปมีผลต่อข้อเข้า ซึ่งสังเกตได้จากบริเวณเอ็นร้อยหวย จะไม่อยู่ในแนวตรงเอียงเข้าด้านใน
- ความห่างกันของข้อต่อที่สบกันบริเวณเข่า ซึ่งการวางตัวห่างกันเกินไปก็จะเกิดข้อเข่าหลวม หรือเมื่อข้อติดกันเกินไปก็จะเกิดการขัดกัน หรือบดของหมอนรองข้อเข่าได้ จึงทำให้เกิดการเจ็บปวดเกิดขึ้นได้

การดูแลผู้ป่วยที่มีอาการปวดข้อเข่า ทำได้หลายแบบ นักกายภาพบำบัดจะเลือกการรักษาที่ต้องจัดการก่อนคือ ความปวด เพราะหากปวดแล้วคนไข้ก็จะทำอย่างอื่นลำบาก ซึ่งการลดปวดนั้นทำได้หลายอย่างขึ้นอยู่กับว่าปัญหาความปวดนั้นเกิดจากอะไร ต่อมาก็จะเป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อรอบข้อเข้า โดยใช้วิธีการบริหารกล้ามเนื้อ การทำให้กล้ามเนื้อมีการเรียนรู้ หรือการติดเทป kinesiology tape เพื่อช่วยทำให้กล้ามเนื้อทำงานได้ดีขึ้น นอกเหนือจากนั้นหากเป็นการบาดเจ็บของนักกีฬาก็อาจจะต้องเพิ่มการเรียนรู้ของระบบประสาทการรับรู้ของข้อต่อ ความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อมากกว่าคนปกติ เพื่อให้นักกีฬากลับไปเล่นได้เหมือนเดิมให้มากที่สุด