ปวดคอ บ่า ไหล่ ปล่อยทิ้งไว้อาจนำไปสู่ความเสื่อมของกระดูกคอไวขึ้น และร่างกายเริ่มเสียสมดุล

เป็นเหมือนกันไหม นั่งทำงานซักพักแล้วรู้สึกตึงต้นคอ หนักบ่า หรือหน่วงสะบักด้านในจนต้องยกไหล่ขึ้นมาหมุน

ซึ่งอาการเหล่านี้ถือเป็นหนึ่งในอาการยอดฮิตของคนทำงานยุคนี้ แต่หลายคนยังเข้าใจว่ามันเกิดจาก นั่งผิดท่า หรือเมื่อยล้าเพราะทำงานหนัก ทั้งที่ความจริงแล้ว อาการเรื้อรังเหล่านี้สะท้อนถึง ความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อ ข้อต่อ และเส้นประสาท ซึ่งหากละเลยเป็นเวลานาน อาจพัฒนาไปสู่สภาวะรุนแรง เช่น กระดูกคอเสื่อมเร็วกว่าปกติ หมอนรองกระดูกคอทับเส้นประสาท หรือไหล่ติดได้ 

ยิ่งในภาวะที่คอและไหล่ต้องรองรับศีรษะที่ยื่นมาข้างหน้า (Forward Head) น้ำหนักศีรษะจะเพิ่มขึ้นจาก 5 กิโลกรัม ไปจนถึง 17-25 กิโลกรัมทันที ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณบ่า ไหล่ และต้นคอทำงานหนักเกินไป ในขณะที่กล้ามเนื้ออีกหลายมัดกลับอ่อนแรงลงโดยที่เราไม่รู้ตัว

ข้อต่อคอ เริ่มขยับได้น้อยลง การบิดหมุนคอจะทำให้รู้สึกเจ็บจี๊ดหรือร้าวลงสะบัก ขณะเดียวกันเส้นประสาทคอก็เริ่มถูกแรงกดทับมากขึ้น

• ปวดร้าวจากคอ ไหล่ แขน มือ
• รู้สึกชา ปลายมือเหมือนไฟช็อต
• ยกแขนไม่สุด หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง
• เจ็บจี๊ดเมื่อไอ จาม (หมอนรองกระดูกคอกดเส้น)

สิ่งที่น่ากลัวคือคนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นเพียงออฟฟิศซินโดรม และเลือกปล่อยทิ้งไว้จนข้อต่อคอเริ่มเสื่อมเร็วกว่าปกติ

หากปล่อยให้เกิดการอักเสบเรื้อรังต่อเนื่อง จะเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะหมอนรองกระดูกคอทับเส้นได้ในอนาคต ซึ่งเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและรักษายากกว่าเดิมหลายเท่า

ดังนั้นการฟื้นฟูอาการกลุ่มนี้จำเป็นต้องประเมินทั้ง โครงสร้าง กระดูกคอ กล้ามเนื้อสะบัก กล้ามเนื้อคอด้านลึก รวมถึงรูปแบบการหายใจ เพราะทุกระบบเชื่อมถึงกัน โดยการเทคนิคการทำกายภาพแบบ EaseMotion by Rebalance ปรับการเคลื่อนไหวของข้อต่อให้กลับมาตามธรรมชาติ และเสริมกล้ามเนื้อให้ทำงานได้สมดุล